พระราชกําหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 เป็นกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อกํากับดูแลและควบคุมการประกอบธุรกิจและการดําเนินกิจกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย โดยมีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายที่มีบทบาทและหน้าที่แตกต่างกันไป ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับผู้เกี่ยวข้องเหล่านี้และบทบาทหน้าที่ของแต่ละฝ่าย
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลตามพระราชกำหนดนี้ โดยมีหน้าที่และอำนาจดังนี้:
- รักษาการตามพระราชกําหนด (มาตรา 4)
- มีอํานาจออกประกาศและแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ (มาตรา 4)
- อนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. (มาตรา 26)
- กำหนดเงื่อนไขที่ผู้ได้รับอนุญาตต้องปฏิบัติในการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (มาตรา 27)
- มีอำนาจเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. (มาตรา 34, 35, 36)
- มีอำนาจประกาศห้ามผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทำธุรกรรมหรือสั่งระงับการดำเนินกิจการในกรณีที่อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบการเงินหรือระบบเศรษฐกิจของประเทศ (มาตรา 37)
2. คณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (คณะกรรมการ ก.ล.ต.)
คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลและควบคุมการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีหน้าที่และอำนาจดังนี้:
- วางนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริม พัฒนา กํากับและควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลและผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (มาตรา 10)
- ออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คําสั่ง หรือข้อกําหนดเกี่ยวกับการออกและเสนอขายโทเคนดิจิทัลและการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (มาตรา 10)
- กําหนดค่าธรรมเนียมสําหรับการขออนุญาต การอนุญาต การขอความเห็นชอบ การให้ความเห็นชอบ และการประกอบกิจการ (มาตรา 10)
- กําหนดหลักเกณฑ์เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาปัญหาที่อาจเกิดขึ้น (มาตรา 10)
- แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติการตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. มอบหมาย (มาตรา 12)
- ให้ความเห็นชอบผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (มาตรา 19)
- กำหนดประเภทของโทเคนดิจิทัลหรือลักษณะการเสนอขายที่ได้รับการยกเว้นการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (มาตรา 20)
- กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจควบคุมกิจการของผู้ขออนุญาตเสนอขายโทเคนดิจิทัล (มาตรา 21)
- กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (มาตรา 30)
- มีอำนาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลแก้ไขฐานะทางการเงินหรือการดำเนินงาน หรือระงับการดำเนินงาน (มาตรา 35)
3. สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สํานักงาน ก.ล.ต.)
สํานักงาน ก.ล.ต. เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ปฏิบัติการตามมติของคณะกรรมการ ก.ล.ต. และมีบทบาทในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง โดยมีหน้าที่และอำนาจดังนี้:
- ปฏิบัติการใด ๆ เพื่อให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการ ก.ล.ต. (มาตรา 14)
- ออกประกาศหรือคําสั่งตามที่บัญญัติไว้ในพระราชกําหนด (มาตรา 14)
- รับค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บตามพระราชกําหนด (มาตรา 14)
- เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการกระทําความผิดและการลงโทษบุคคลซึ่งกระทําความผิด (มาตรา 15)
- อนุญาตการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ออกใหม่ต่อประชาชน (มาตรา 17)
- รับแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลและร่างหนังสือชี้ชวน (มาตรา 17)
- มีอำนาจสั่งระงับหรือเพิกถอนการอนุญาตเสนอขายโทเคนดิจิทัลในกรณีที่พบความผิดปกติ (มาตรา 22)
- ให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการหรือผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (มาตรา 29)
- กำหนดหลักเกณฑ์และระยะเวลาในการชำระราคาและส่งมอบรายการที่ค้างอยู่ของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่เลิกประกอบธุรกิจ (มาตรา 33)
- ให้ความช่วยเหลือในการรวบรวมหรือตรวจสอบข้อมูลแก่หน่วยงานกำกับดูแลต่างประเทศ (มาตรา 52)
4. ผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัล
ผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลคือนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่ต้องการระดมทุนผ่านการเสนอขายโทเคนดิจิทัล โดยมีหน้าที่และข้อปฏิบัติดังนี้:
- ต้องได้รับอนุญาตจากสํานักงาน ก.ล.ต. ก่อนเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ออกใหม่ต่อประชาชน (มาตรา 17)
- ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสํานักงาน ก.ล.ต. (มาตรา 17)
- เสนอขายโทเคนดิจิทัลผ่านผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ได้รับความเห็นชอบเท่านั้น (มาตรา 19)
- เสนอขายโทเคนดิจิทัลเฉพาะต่อผู้ลงทุนตามประเภทและภายใต้เงื่อนไขที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด (มาตรา 18)
- จัดทําและส่งรายงานเกี่ยวกับผลการดําเนินงานและฐานะการเงิน รวมถึงข้อมูลที่อาจมีผลต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือโทเคนดิจิทัลต่อสํานักงาน ก.ล.ต. (มาตรา 25)
5. ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล
ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลเป็นตัวกลางสำคัญในการเสนอขายโทเคนดิจิทัล โดยมีบทบาทและหน้าที่ดังนี้:
- ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. (มาตรา 19)
- ทำหน้าที่กลั่นกรองลักษณะของโทเคนดิจิทัลที่จะเสนอขาย (มาตรา 3)
- ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ออกโทเคนดิจิทัล (มาตรา 3)
- ตรวจสอบความครบถ้วนถูกต้องของแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลและร่างหนังสือชี้ชวน (มาตรา 3)
- ดูแลให้ข้อมูลที่เปิดเผยผ่านระบบของตนมีความถูกต้องและครบถ้วน
6. ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผู้ที่ให้บริการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีหน้าที่และข้อปฏิบัติดังนี้:
- ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. (มาตรา 26)
- ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด (มาตรา 30) ซึ่งรวมถึง:
- การมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอ
- การรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินของลูกค้า
- การรักษาความปลอดภัยจากการโจรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
- การมีระบบบัญชีที่เหมาะสม
- การมีมาตรการรู้จักลูกค้าและตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า
- จัดทำบัญชีทรัพย์สินของลูกค้าแยกแต่ละรายและเก็บรักษาทรัพย์สินแยกออกจากทรัพย์สินของตน (มาตรา 31)
- ต้องขออนุญาตจากรัฐมนตรีผ่านคณะกรรมการ ก.ล.ต. หากต้องการเลิกประกอบธุรกิจ (มาตรา 32)
- ห้ามตั้งหรือยอมให้บุคคลซึ่งมีลักษณะต้องห้ามตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร (มาตรา 28)
- ต้องได้รับความเห็นชอบจากสํานักงาน ก.ล.ต. ในการแต่งตั้งกรรมการหรือผู้บริหาร (มาตรา 29)
- ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือรัฐมนตรีในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับฐานะทางการเงินหรือการดำเนินงาน (มาตรา 35, 36, 37)
6.1 ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นศูนย์กลางหรือเครือข่ายใด ๆ ที่จัดให้มีขึ้นเพื่อการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีหน้าที่เฉพาะดังนี้:
- จัดระบบการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความปลอดภัยและเป็นธรรม
- กำกับดูแลการซื้อขายให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่กำหนด
- เฝ้าระวังและรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัยหรือผิดปกติต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- เก็บรักษาข้อมูลการซื้อขายและข้อมูลของผู้ใช้บริการตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
6.2 นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผู้ให้บริการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนเพื่อซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลให้แก่ลูกค้า โดยมีหน้าที่เฉพาะดังนี้:
- ให้คำแนะนำและบริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส
- เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้ลูกค้าทราบอย่างครบถ้วน
- ไม่ใช้ข้อมูลของลูกค้าเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือบุคคลอื่น (มาตรา 45)
- ดำเนินการตามคำสั่งของลูกค้าอย่างซื่อสัตย์และรวดเร็ว
6.3 ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล
ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผู้ให้บริการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในนามของตนเองเป็นทางค้าปกติ โดยมีหน้าที่เฉพาะดังนี้:
- รักษาสภาพคล่องในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
- เสนอราคาซื้อและขายที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับสภาวะตลาด
- บริหารความเสี่ยงจากการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเหมาะสม
- เปิดเผยข้อมูลการซื้อขายตามที่กฎหมายกำหนด
7. ผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
ผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลที่ซื้อหรือถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีสิทธิและหน้าที่ดังนี้:
- มีสิทธิได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่ลงทุน
- มีสิทธิได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย เช่น การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในกรณีที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำผิดของผู้เกี่ยวข้อง (มาตรา 23)
- ต้องระมัดระวังและศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
- ปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อกำหนดในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
- รายงานการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลตามที่กฎหมายกำหนด (ถ้ามี)
8. พนักงานเจ้าหน้าที่
พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีเพื่อปฏิบัติการตามพระราชกำหนดนี้ โดยมีอำนาจหน้าที่ดังนี้ (มาตรา 51):
- เข้าไปในสถานที่ประกอบธุรกิจหรือสถานที่เก็บข้อมูลของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อตรวจสอบกิจการ
- เข้าไปในสถานที่ประกอบธุรกิจของผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อตรวจสอบเอกสารและข้อมูล
- ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
- ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน เอกสาร หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
- สั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหลักฐาน
9. คณะกรรมการเปรียบเทียบ
คณะกรรมการเปรียบเทียบเป็นคณะกรรมการที่รัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่เปรียบเทียบความผิดตามพระราชกำหนดนี้ โดยมีบทบาทและหน้าที่ดังนี้ (มาตรา 95):
- พิจารณาเปรียบเทียบความผิดตามที่กำหนดไว้ในพระราชกำหนด
- กำหนดค่าปรับและระยะเวลาชำระค่าปรับสำหรับผู้กระทำความผิดที่ยินยอมให้เปรียบเทียบ
- ดำเนินการให้คดีเลิกกันเมื่อผู้ต้องหาได้ชำระค่าปรับตามที่กำหนด
10. คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่งตามพระราชกำหนดนี้คือคณะกรรมการชุดเดียวกันกับที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยมีบทบาทและหน้าที่ดังนี้ (มาตรา 99):
- พิจารณาและกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งสำหรับการกระทำความผิดที่กำหนดไว้ในพระราชกำหนด
- กำหนดค่าปรับทางแพ่งและมาตรการลงโทษอื่น ๆ เช่น การห้ามเข้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
- พิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
- ให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงและแสดงพยานหลักฐาน
- ทำบันทึกการพิจารณาและคำวินิจฉัย
11. ศาล
แม้ว่าศาลจะไม่ได้ถูกระบุเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงในพระราชกำหนด แต่ก็มีบทบาทสำคัญในการบังคับใช้กฎหมายและการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีบทบาทดังนี้:
- พิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชกำหนด
- มีอำนาจสั่งการตามมาตรา 74 เช่น:
- สั่งให้ผู้กระทำความผิดชดใช้เงินเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิด
- ห้ามเข้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
- ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
- พิจารณาคดีแพ่งที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องค่าเสียหายจากการกระทำผิดตามพระราชกำหนด
- ออกหมายบังคับคดีในกรณีที่ผู้กระทำความผิดไม่ชดใช้เงินตามคำสั่งศาล (มาตรา 74)
12. พนักงานสอบสวน
พนักงานสอบสวนมีบทบาทในการดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชกำหนด โดยมีหน้าที่ดังนี้:
- รับคำร้องทุกข์หรือคำกล่าวโทษเกี่ยวกับการกระทำความผิดตามพระราชกำหนด
- ส่งเรื่องให้สำนักงาน ก.ล.ต. ภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ เพื่อพิจารณาดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่ง (มาตรา 97)
- สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานในคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชกำหนด
- ประสานงานกับสำนักงาน ก.ล.ต. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนสอบสวนคดี
13. ผู้สอบบัญชี
ผู้สอบบัญชีมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบและรับรองงบการเงินของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีหน้าที่ดังนี้:
- ตรวจสอบและรับรองงบการเงินของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตามมาตรฐานการสอบบัญชี
- รายงานข้อสังเกตหรือข้อบกพร่องที่พบจากการตรวจสอบต่อผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจ
- แจ้งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. หากพบการกระทำที่อาจเป็นการฝ่าฝืนพระราชกำหนดหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
- เก็บรักษาความลับของข้อมูลที่ได้รับจากการปฏิบัติหน้าที่ เว้นแต่เป็นการเปิดเผยตามกฎหมาย (มาตรา 92)
สรุป
พระราชกําหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ได้กำหนดบทบาทและหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายเพื่อสร้างระบบนิเวศที่มั่นคงและโปร่งใสสำหรับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย โดยมีการแบ่งบทบาทและความรับผิดชอบอย่างชัดเจน ดังนี้:
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีบทบาทในการกำกับดูแลระดับนโยบายและการอนุญาตประกอบธุรกิจ
- คณะกรรมการ ก.ล.ต. และสำนักงาน ก.ล.ต. ทำหน้าที่กำกับดูแลและควบคุมการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง
- ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งศูนย์ซื้อขาย นายหน้า และผู้ค้า มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบและดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส
- ผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลและผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการระดมทุนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล
- ผู้ลงทุนมีสิทธิได้รับการคุ้มครองและมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบในการลงทุน
- พนักงานเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการเปรียบเทียบ และคณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่งมีบทบาทในการบังคับใช้กฎหมายและลงโทษผู้กระทำความผิด
- ศาล พนักงานสอบสวน และผู้สอบบัญชีมีบทบาทสนับสนุนในการพิจารณาคดี สืบสวนสอบสวน และตรวจสอบการดำเนินงานตามลำดับ
การทำงานร่วมกันของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงินดิจิทัล ส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงิน และในขณะเดียวกันก็คุ้มครองผู้ลงทุนและรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเทคโนโลยีและรูปแบบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จึงอาจมีความจำเป็นในการปรับปรุงกฎหมายและบทบาทของผู้เกี่ยวข้องในอนาคตเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม