บทนำ
White Paper ของ Bitcoin เป็นเอกสารประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงวงการการเงินโลก เขียนโดยบุคคลหรือกลุ่มคนที่ใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto และเผยแพร่ในปี 2008 เอกสารนี้นำเสนอแนวคิดระบบการเงินรูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางอย่างธนาคาร เป็นจุดเริ่มต้นของ Bitcoin และเทคโนโลยี Blockchain ที่เรารู้จักในปัจจุบัน
ทำไมต้องมี Bitcoin?
ปัญหาของระบบการเงินแบบเดิม
ในระบบการเงินปัจจุบัน การทำธุรกรรมทางการเงินทุกอย่างต้องผ่านตัวกลาง เช่น:
- ธนาคารพาณิชย์
- บริษัทบัตรเครดิต
- ผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ เช่น PayPal, Stripe
ระบบนี้มีข้อเสียหลายประการ:
- ค่าใช้จ่ายสูง
- ค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างประเทศสูงถึง 3-7%
- ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต 2-3% ที่ร้านค้าต้องจ่าย
- ค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชี
- ความไม่แน่นอน
- ธุรกรรมอาจถูกปฏิเสธหรือยกเลิกย้อนหลัง
- เงินอาจถูกอายัดโดยธนาคาร
- การโอนเงินระหว่างประเทศใช้เวลานาน 3-5 วันทำการ
- ความเป็นส่วนตัว
- ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากมาย
- ธนาคารรู้ประวัติการทำธุรกรรมทั้งหมด
- ข้อมูลอาจรั่วไหลหรือถูกแฮก
- การพึ่งพาตัวกลาง
- ต้องเชื่อใจว่าธนาคารจะไม่โกงหรือล้มละลาย
- รัฐบาลสามารถแทรกแซงระบบการเงินได้
- ระบบอาจล่มหรือมีปัญหาทางเทคนิค
แนวคิดของ Bitcoin
Satoshi เสนอระบบการเงินใหม่ที่มีคุณสมบัติ:
- ทำธุรกรรมโดยตรงระหว่างผู้ส่งและผู้รับ
- ไม่ต้องผ่านตัวกลางใดๆ
- ค่าธรรมเนียมต่ำ
- รวดเร็ว ไม่ว่าจะส่งไปที่ไหนในโลก
- ไม่สามารถยกเลิกธุรกรรมได้
- รักษาความเป็นส่วนตัวได้ดีกว่า
- ไม่มีใครควบคุมระบบแต่เพียงผู้เดียว
Bitcoin ทำงานอย่างไร?
1. การทำธุรกรรมแบบ Peer-to-Peer
Bitcoin ใช้เครือข่าย Peer-to-Peer (P2P) ซึ่งเป็นระบบที่คอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง (Node) มีสถานะเท่าเทียมกัน ไม่มีเซิร์ฟเวอร์กลาง เปรียบเสมือนการส่งอีเมลโดยตรงถึงผู้รับ แทนที่จะต้องส่งจดหมายผ่านไปรษณีย์
ขั้นตอนการทำธุรกรรม:
- ผู้ส่งใช้ Private Key (เหมือนรหัส ATM) เซ็นยืนยันการส่ง
- ระบุที่อยู่ปลายทาง (Public Key) ของผู้รับ
- ธุรกรรมถูกส่งไปยัง Node ทั้งหมดในเครือข่าย
- Node ตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม
- เมื่อผ่านการตรวจสอบ ธุรกรรมจะถูกบันทึกลงใน Blockchain
2. การป้องกันการใช้เงินซ้ำ
ปัญหาสำคัญของเงินดิจิทัลคือ การป้องกันไม่ให้คนใช้เงินก้อนเดียวกันซ้ำ เช่น ถ้าเรามีไฟล์รูปภาพ เราสามารถก็อปปี้ส่งให้คนอื่นกี่ครั้งก็ได้ Bitcoin แก้ปัญหานี้ด้วย:
- Blockchain – สมุดบัญชีสาธารณะที่บันทึกทุกธุรกรรม
- ทุกคนสามารถตรวจสอบได้
- แก้ไขข้อมูลย้อนหลังไม่ได้
- Node ทุกเครื่องมีสำเนาเหมือนกัน
- การตรวจสอบโดย Node
- Node ตรวจสอบว่าผู้ส่งมี Bitcoin จริง
- ตรวจสอบว่าไม่เคยใช้ Bitcoin นั้นไปแล้ว
- ต้องได้รับการยืนยันจาก Node ส่วนใหญ่
3. ระบบ Proof of Work
เพื่อให้ระบบน่าเชื่อถือและป้องกันการโกง Bitcoin ใช้ระบบ Proof of Work:
- การรวม Block
- ธุรกรรมใหม่ถูกรวมเป็น “Block”
- แต่ละ Block มีขนาดประมาณ 1 MB
- เก็บธุรกรรมได้ประมาณ 2,000-3,000 รายการ
- การขุด (Mining)
- Node แข่งกันแก้โจทย์คณิตศาสตร์ซับซ้อน
- ต้องใช้พลังการประมวลผลสูง
- Node ที่แก้ได้ก่อนจะได้สร้าง Block ใหม่
- ได้รางวัลเป็น Bitcoin (ปัจจุบัน 6.25 BTC ต่อ Block)
- การเชื่อมต่อ Block
- Block ใหม่จะเชื่อมกับ Block เก่า
- ใช้ระบบ Hash เชื่อมต่อ
- แก้ไขข้อมูลย้อนหลังไม่ได้
4. ความปลอดภัยของระบบ
Bitcoin ปลอดภัยด้วยหลักการทางคณิตศาสตร์และเศรษฐศาสตร์:
- การเข้ารหัส
- ใช้ระบบเข้ารหัสแบบ Public Key Cryptography
- Private Key ยาว 256 bit สุ่มเดาแทบเป็นไปไม่ได้
- การป้องกันการโจมตี
- ต้องใช้พลังงานมหาศาลในการโจมตี
- ไม่คุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์
- Node ส่วนใหญ่ต้องซื่อสัตย์
- ความโปร่งใส
- ทุกธุรกรรมเปิดเผยต่อสาธารณะ
- ตรวจสอบย้อนหลังได้
- ไม่สามารถปลอมแปลงได้
ประโยชน์และการใช้งาน Bitcoin
- การโอนเงินระหว่างประเทศ
- รวดเร็ว (10-60 นาที)
- ค่าธรรมเนียมต่ำ
- ทำได้ 24/7
- การเก็บรักษามูลค่า
- จำนวนจำกัดแค่ 21 ล้านเหรียญ
- ป้องกันเงินเฟ้อ
- ไม่ถูกยึดหรืออายัด
- ความเป็นส่วนตัว
- ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน
- ควบคุมเงินได้เอง
- ไม่มีคนกลางตรวจสอบ
ข้อจำกัดและความท้าทาย
- ด้านเทคนิค
- รองรับธุรกรรมได้จำกัด
- ใช้พลังงานมาก
- อาจมีปัญหาการขยายตัว
- ด้านกฎหมาย
- กฎระเบียบไม่ชัดเจน
- บางประเทศห้ามใช้
- ปัญหาด้านภาษี
- ด้านการใช้งาน
- ซับซ้อนสำหรับมือใหม่
- ราคาผันผวน
- ความเสี่ยงจากการเก็บรักษา
ศัพท์สำคัญที่ควรรู้
- Blockchain: สมุดบัญชีดิจิทัลที่บันทึกธุรกรรมทั้งหมด
- Node: คอมพิวเตอร์ในเครือข่าย Bitcoin
- Mining: การแข่งขันสร้าง Block ใหม่
- Private Key: รหัสลับสำหรับใช้จ่าย Bitcoin
- Public Key: ที่อยู่สำหรับรับ Bitcoin
- Hash: การเข้ารหัสข้อมูลแบบทางเดียว
- Block: ชุดของธุรกรรมที่ถูกบันทึกพร้อมกัน
- Wallet: กระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับเก็บ Bitcoin
ดาว์นโหลด White Paper Bitcoin ภาษาไทย